ประโยชน์ของการล้างแอร์
ปัจจุบัน มลภาวะทางอากาศเช่น ฝุ่นละออง ควันพิษ เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ เช่น เมืองหลวงของเราเป็นต้น แน่นอนมลภาวะเหล่านี้ไม่เป็นผลดีทั้งต่อมนุษย์และเครื่องใช้ โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ ที่ทุกบ้านใช้กันอยู่ หลายๆสาเหตุของเครื่องปรับอากาศ มีข้อบกพร่อง เกิดจากเพียงแค่สกปรกหรือตันจาการสะสมของฝุ่นละอองเท่านั้น ซึ่งเป็นเพียงแค่ปัญหาเล็กๆ แต่ถ้าปล่อยไว้นานปัญหาเล็กๆ ก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ หรือเป็นจุดเริ่มต้นของเครื่องปรับเสีย ยิ่งทิ้งไว้นานก็ยิ่งลุกลามจนอาจจะต้องเปลี่ยนเครื่อง เนื่องจากไม่สามารถเยียวยาได้ นี้ก็คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องล้างเครื่องปรับอากาศ นั่นก็คือเราจะเสียเงินค่าบำรุงรักษาน้อยกว่าการเสียเงินเพื่อซ่อมแซมนั่นเอง
ทำไมต้องเลือกบีทียู(ขนาดความเย็นของเครื่องปรับอากาศ)ให้พอดี
สิ่งที่เราควรคำนึงถึงในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศคือ ขนาดบีทียู ถ้าเราเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีขนาดบีทียู ไม่เหมาะสมกับพื้นที่ห้อง อาจทำให้เราเสียค่าใช้จ่ายมากเกินไป การเลือกขนาดบีทียูไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดปัญหากับ ผู้ใช้เครื่องปรับอากาศดังนี้
บีทียูต่ำไป : คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานตลอดเวลาเพราะความเย็นห้องไม่ได้ตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้ ให้สิ้น เปลืองพลังงานและเครื่องเสียเร็ว
บีทียูสูงเกินไป : คอมเพรสเซอร์ตัดบ่อยเกินไป ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศลดลง และมีความชื้นในห้องสูง ทำให้ไม่สบายตัวและที่สำคัญต้องเสียเงินซื้อเครื่องปรับอากาศในราคาที่แพงเกินไปเพราะขนาด บีทียูมากเกินความจำเป็นและสิ้นเปลืองค่าไฟ
ขนาดความเย็นของเครื่องปรับอากาศ (บีทียู) คือขนาดความสามารถในการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ (British Themal Unit) มีหน่วยดังนี้ 1 ตัน = 12000 BTU ดังนั้นเราควรเลือกขนาดของเครื่องปรับอากาศให้มีขนาดพอเหมาะกับ ห้องที่จะทำการติดตั้งซึ่งเป็นความสำคัญอันดับแรกในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ
ตารางการเปรียบเทียบการเลือกขนาด BTU กับพื้นที่ห้อง
| ตารางการคำนวณขนาดบีทียู | ||
| บีทียู/ชม. | ขนาดห้อง (ตารางเมตร) | |
| ห้องปกติ | ห้องที่โดนแดด | |
| 9,000 | 12-15 | 11-14 |
| 12,000 | 16-20 | 14-18 |
| 18,000 | 24-30 | 21-27 |
| 21,000 | 28-35 | 25-32 |
| 24,000 | 32-40 | 28-36 |
| 26,000 | 35-44 | 30-39 |
| 30,000 | 40-50 | 35-45 |
| 36,000 | 4860 | 42-54 |
| 48,000 | 64-80 | 56-72 |
| 60,000 | 80-100 | 70-90 |
หมายเหตุ : ไม่รวมขนาดห้องที่เป็นกระจกมีแดดส่องตลอดทั้งวัน
ปัจจัยที่ควรพิจารณาเพิ่มเติมในการเลือกขนาดของ BTU
1. จำนวนและขนาดของหน้าต่าง
2. ทิศที่แดดส่องหรือทิศที่ตั้งของห้อง
3. วัสดุหลังคามีฉนวนกันความร้อนหรือไม่
4. จำนวนคนที่ใช้งานในห้อง
5. จำนวนและประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้อง ถ้ามีมากหรือใช้รวมกันหลายจุด
ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการเลือกซื้อเพิ่มเติม
วิธีการคำนวณหาค่าบีทียูแบบง่ายๆด้วยตนเอง
บีทียู = พื้นที่ห้อง (กว้าง x ยาว) x ค่าตัวแปร
ค่าตัวแปร = ค่าความร้อน แบ่งออกได้ 2 ระดับคือ
700 – 800 ห้องที่มีความร้อนน้อย (ห้องที่ไม่โดนแดดหรือโดนแดดเล็กน้อย หรือห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศ ช่วงกลางคืน)
900 – 1200 ห้องที่มีความร้อนปานกลาง – มาก (หรือห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศช่วงกลางวันเป็นหลัก)
*** ถ้าหากเพดานห้องสูงกว่า 2.5 เมตร ขึ้นไปให้บวกค่าบีทียูเพิ่มขึ้นอีก 5% จากค่าปกติ***
มีฉลากรับรองคุณภาพและมาตรฐาน
เพื่อความมั่นใจสูงสุดว่าคุณจะได้รับเครื่องปรับอากาศที่มีคุณภาพสมราคา และเป็นอุปกรณ์แท้จากโรงงานผู้ผลิต เราจึงควรมองหาสัญลักษณ์ดังต่อไปนี้
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 : เพื่อรับรองว่าเป็นเครื่องปรับอากาศที่มีค่าประสิทธิภาพทำความเย็น EER : Energy Effciency Ratio ) ตามที่กำหนดไว้คือ 11.6 หรือมากกว่า โดยได้รับการรับรองฉลาก จากหน่วยงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) เท่านั้นเครื่องปรับอากาศที่ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จากหน่วยงานการไฟฟ้าจะได้รับการรับรองเรื่องของการประหยัดพลังงาน
ฉลาก มอก. : ฉลากรับรองคุณภาพจากสำนักงานมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ที่อุตสาหกรรม (สมอ.)โดยจะมีฉลาก รับรอง 2 ตัว คือ มอก.1155, มอก.2134